ปัญหาสุขภาพช่องปากในวัยรุ่น
1. ฟันผุ
ฟันผุ เป็นปัญหาสุขภาพฟันที่พบได้บ่อย หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน นำไปสู่อาการปวดหรือสูญเสียฟันได้ การป้องกันฟันผุสามารถทำได้โดยการดูแลรักษาสุขอนามัยในช่องปาก เช่น แปรงฟัน แปรงลิ้น ใช้ไหมขัดฟัน ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ลูกอม
2. โรคเหงือก
โรคเหงือกมี 2 ชนิด คือ โรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งล้วนมีสาเหตุจากคราบพลาคสะสม ทำให้มีอาการเลือดออกตามขอบเหงือก เหงือกแดงและบวม โรคเหงือกอักเสบมีความรุนแรงน้อยกว่าโรคปริทันต์อักเสบ ที่อาจลุกลามมากขึ้นจนเหงือกติดเชื้อ และอาจส่งผลทำให้ฟันหลุดได้
ช่วงวัยรุ่นที่มีความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกมากขึ้น ดังนั้น วัยรุ่นจึงควรดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี และเข้าพบทันตแพทย์ทันทีถ้าหากสังเกตพบอาการของโรคเหงือก เช่น เหงือกบวม เหงือกอักเสบ มีเลือดออกในช่องปาก
3. ฟันซ้อน ฟันไม่เรียงตัว
ฟันซ้อน ไม่เรียงตัว เกิดจากการที่เหงือกมีพื้นที่ว่างไม่พอให้ฟันเรียงตัว ทำให้ฟันขึ้นโดยมีลักษณะทับซ้อนกัน ไม่สวยงาม นอกจากนี้ ปัญหาฟันซ้อนยังอาจนำไปสู่ปัญหาช่องปากอื่น ๆ เช่น ฟันไม่สบกัน ฟันผุ ปัญหาการขบกัด ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม
4. ฟันคุด
ฟันคุด คือฟันกรามซี่สุดท้ายที่ไม่สามารถโผล่ขึ้นมาได้ตามปกติ จนอาจไปเบียดฟันข้าง ๆ แล้วทำให้เกิดอาการปวดฟัน หรือนำไปสู่การอักเสบและการติดเชื้อได้ เป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยรุ่น ปัญหาฟันคุดอาจต้องทำการผ่าตัดหรือถอนฟันคุดออกเพื่อป้องกัน แต่ในบางกรณี ฟันคุดก็อาจไม่ก่อให้เกิดปัญหา และไม่จำเป็นต้องทำการถอนออก
การดูแล สุขภาพช่องปากและฟันของวัยรุ่น
สิ่งที่สำคัญ คือ การดูแลสุขอนามัยในช่องปาก
1.เข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ 6 เดือน
2.ปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก รวมถึงประเมินการกัดและความเสี่ยงในการเกิดฟันคุด
3.รับการเคลือบฟลูออไรด์ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงในการฟันผุสูง
4.รักษาปัญหาช่องปากต่าง ๆ เช่น อุดฟัน จัดฟัน ให้เรียบร้อย